วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

วัดล้านขวด

สวัสดีคะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ วัดล้านขวด เหมาะสำหรับคนชอบทำบุญ สายบุญ และชอบสิ่งที่แปลกใหม่ เราไปชมกันเลยจ๊าาา


วัดล้านขวด



วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดล้านขวด ตั้งอยู่ที่บ้านดอน ตำบลโนนสูง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ชื่อว่า “วัดล้านขวด” ก็เพราะสถานที่ต่างๆ ภายในวัด ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูทางเข้า ลานจอดรถ โบสถ์ ศาลา หอระฆัง กุฏิ หรือแม้แต่ห้องน้ำ ต่างถูกประดับประดาด้วยขวดแก้วหลากสีหลายแบบรวมกันกว่า 1.5 ล้านใบ ซึ่งความคิดเช่นนี้ไม่ได้เป็นของนักออกแบบหรือศิลปินท่านใด แต่มาจากพระภิกษุรูปหนึ่ง นามว่า “พระครูวิเวกธรรมาจารย์” หรือ “หลวงปู่ลอด” ที่ครั้งหนึ่งได้เข้าไปพักปักกลดในป่าช้าหนองใหญ่ (ที่ตั้งวัดล้านขวดในปัจจุบัน) โดยในระหว่างนั้นมีญาติโยมและชาวบ้านแวะเวียนมาปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ทำให้หลวงปู่เกิดความคิดที่จะสร้างวัดขึ้นบนพื้นที่ป่าช้าแห่งนี้ แต่เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีขยะจำพวกขวดอยู่มาก ซึ่งท่านเห็นว่าขวดเหล่านั้นมีสีต่างๆ สามารถนำไปตกแต่งอาคารได้อย่างสวยงาม และยังช่วยประหยัดงบประมาณค่าสี ค่ากระเบื้องได้อีก หลวงปู่จึงทำการรวบรวมขวดจากหมู่บ้านในละแวกวัด และจากหมู่บ้านใกล้เคียง นำมาสร้างกุฏิหลังแรก ต่อมาเมื่อวัดล้านขวดเป็นที่รู้จักทั่วไป คนในจังหวัดใกล้เคียงก็ได้หลั่งไหลเข้ามาสู่วัด โดยต่างคนต่างก็นำขวดติดไม้ติดรถมาบริจาคด้วย จากนั้นอาคารต่างๆ ก็ได้ทยอยถูกสร้างขึ้น กระทั่งวัดล้านขวดกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์ดังเช่นในปัจจุบัน
 ด้วยความแปลกใหม่ของวัสดุที่ใช้ตกแต่งอาคารสถานที่ zทำให้วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือวัดล้านขวดกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวในอำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีษะเกษ สำหรับผู้ที่เดินทางมาเที่ยวเป็นครั้งแรกคงจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เมื่อได้พบเห็นสิ่งปลูกสร้างรอบตัวถูกประดับประดาด้วยขวดแก้วหลากสีสันโดยเฉพาะ ศาลาฐานสโมสรเจดีย์แก้ว และ สิมน้ำ ซึ่งงดงามอลังการด้วยขวดจำนวนนับแสนใบ ที่นี่นอกจากจะได้ชื่นชมศิลปะการสลับสีขวดเป็นลวดลายต่างๆ บนอาคารแล้ว ผู้มาเยือนยังจะได้ทึ่งกับความคิดในการนำฝาขวดมาปะติดจนได้ภาพพุทธประวัติที่ไม่เหมือนที่ใดอีกด้วย
การเดินทางไปยังอำเภอขุนหาญ : จากตัวเมืองศรีสะเกษ ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 211 และ 2111 ระยะทางประมาณ 61 กิโลเมตร

สำหรับผู้ที่สนใจอยากไปเที่ยวสถานที่นี้ก็สามารถไปตามที่อยู่ด้านบนเลยจ๊าาา

วัดพระธาตุสุพรรณหงส์

สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ เราไปชมกันเล๊ยยยยยย


วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ 



วัดพระธาตุสุพรรณหงส์ หรือวัดบ้านหว้านตั้งอยู่ที่หมู่บ้านหว้าน ตำบลน้ำคำ อำเภอเมือง ตั้งอยู่ห่างจาก อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 10 กิโลเมตร อีกหนึ่งวัดสวยที่ห้ามพลาดเมื่อเดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ ด้วยความโดดเด่นของพระอุโบสถที่ก่อสร้างบนเรือสุพรรณหงส์จำลอง ลอยอยู่กลางน้ำอย่างสวยงามแปลกตา ตัวพระอุโบสถกว้าง 5 เมตร ยาว 13.60 เมตร หลังคาทรงจัตุรมุข 3 ชั้น มียอดมณฑปกลางอุโบสถ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และด้วยความสวยงามโดดเด่นของวัดแห่งนี้จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม


น้ำตกสำโรงเกียรติ

สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ น้ำตกสำโรงเกียรติ เราไปชมกันเล๊ยยยยยย


น้ำตกสำโรงเกียรติ




น้ำตกสำโรงเกียรติ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ในท้องที่ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 81 กิโลเมตร น้ำตกสำโรงเกียรติ เดิมชื่อว่า “น้ำตกปีศาจ” ซึ่งตั้งตามชื่อหน่วยทหารพรานที่มีสมญานามว่า “หน่วยปีศาจ” ซึ่งได้ใช้น้ำตกแห่งนี้เป็นที่ตั้งหน่วยปฏิบัติการ กระทั่งถึงปี พ.ศ. 2549 เมื่อมีการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว น้ำตกปีศาจก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “น้ำตกสำโรงเกียรติ” ตามชื่อหมู่บ้านนับแต่บัดนั้น
น้ำตกสำโรงเกียรติ มีต้นกำเนิดจากภูเขากันทุง บนเทือกเขาบรรทัด เป็นน้ำตกขนาดกลาง ตกจากหน้าผาสูง 8 เมตร ลักษณะอันโดดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือ ที่ด้านบนของน้ำตกจะเป็นธารน้ำซึ่งไหลไปตาม ลานหิน ดูสวยงามมากโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน สำหรับบรรยากาศโดยรอบน้ำตกนั้นร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ เหมาะแก่การทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ว่าจะเป็นการปูเสื่อนั่งรับประทานอาหาร การลงเล่นน้ำ หรือการถ่ายภาพทิวทัศน์อันสวยงามของน้ำตกตามจุดต่างๆ
เช่นเดียวกับน้ำตกหลายๆ แห่ง น้ำตกสำโรงเกียรติจะมีสายน้ำไหลชุ่มฉ่ำให้สัมผัสกันอย่างจุใจในช่วงหน้าน้ำ โดยช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาเที่ยวคือ ตั้งแต่เดือนกันยายน – กุมภาพันธ์ของทุกปี
วันและเวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.


ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำศรีสะเกษอควาเรียม

สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษอควาเรียม  เราไปชมกันเล๊ยยยจ๊าาา



ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษอควาเรียม

ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษอควาเรียม ตั้งอยู่ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) ในท้องที่ตำบลหนองครก อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เป็นศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งแรกในภาคอีสานตอนใต้ สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดไปในตัว ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554 ซึ่งตรงกับวันเด็กแห่งชาติ
ภายในอาคารศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ มีการจัดโซนปลาให้ได้ชมทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด และปลาสวยงาม ซึ่งที่นี่มีพันธุ์ปลามากกว่า 100 ชนิด จำนวนรวมกว่า 4,000 ตัวเลยทีเดียว ทั้งนี้พันธุ์ปลาต่างๆ ได้ถูกจัดแสดงในตู้หลายขนาด มีตั้งแต่ขนาดทั่วๆ ไป จนถึงขนาดใหญ่ราวจอภาพยนตร์ ที่สำคัญคือ แต่ละตู้จะมีป้ายข้อมูลเกี่ยวกับปลาชนิดนั้นๆ กำกับอยู่ ผู้มาเยือนจึงได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน
อุโมงค์แก้วใต้น้ำ ถือเป็นบริเวณที่มีความน่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากตลอดระยะทาง 24 เมตร ของอุโมงค์ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมความสวยงามและความน่ารักของปลาน้อยใหญ่อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีโอกาสได้ชมการแสดงดำน้ำ ให้อาหารปลาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 14.00 น. ของทุกวัน
หลังจากที่ได้เพลิดเพลินกับการชมพันธุ์ปลา ศรีสะเกษอควาเรียม ยังมีบริการ “สปาปลา” ให้นักท่องเที่ยวได้ลองสัมผัส และมีมุมของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อหาเป็นของฝาก ก่อนเดินทางกลับ
การเดินทาง: จากตัวเมืองศรีสะเกษ ให้ใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองไปทางอำเภอขุขันธ์ ซึ่งศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำฯ จะอยู่ฝั่งขวามือของถนนเลี่ยงเมือง ในท้องที่ตำบลหนองครก


สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์


สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ เราไปชมกันเล๊ยยยยยย


                                               สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์








สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ เป็นสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 80 พรรษาแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองครก อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ ติดกับบริเวณวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ มีเนื้อที่ 237 ไร่ ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทร์บรมราชชนนี พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นประธานเปิดสวนแห่งนี้เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2524

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ เป็นที่ราบมีความสูงต่ำตามลักษณะเดิมของบริเวณ ภายในสวนมีลำห้วยธรรมชาติ 2 สาย คือ ห้วยปูนใหญ่ และห้วยปูนน้อย ไหลมาบรรจบกันที่ด้านเหนือของสวนซึ่งมีฝายกั้นเป็นที่เก็บกักน้ำเพื่อความสวยงาม เป็นสวนน้ำเพื่อการพักผ่อนอย่างสงบโดยรอบและใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับระบบชลประทาน


พื้นที่เดิม เป็นป่าละเมาะธรรมชาติที่อุดมด้วยพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งประดู่ พยุง ตะแบก มังคุดป่า ชะพวงและมะส้าน โดยเฉพาะต้นลำดวนที่มีขึ้นอยู่มากมายในพื้นที่ ประมาณได้มากถึง 50,000 ต้น จากการสร้างสวนนี้เองที่จังหวัดศรีสะเกษได้นำต้นลำดวนมาเป็นต้นไม้ประจำจังหวัด โดยที่พื้นที่เดิมมีส่วนหนึ่งที่เป็นป่าธรรมชาติที่มีสัตว์ป่าและนกอยู่อาศัยอยู่เดิมแล้วเป็นจำนวนมากและหลากหลายชนิด เช่น กระรอก กระแต อีเห็นลายจุด พังพอน รวมทั้งกระจง ผู้ออกแบบวางผังจึงกำหนดให้คงไว้เป็นแหล่งพักพิงของสัตว์ป่า

สมเด็จพระศรีนครินทร์บรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นประธานเปิดสวนเมื่อ พ.ศ. 2524


สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ศรีสะเกษ เป็นสวนที่มีความเป็นธรรมชาติมากเนื่องจากเดิมเป็นป่าอยู่แล้ว จึงมีความร่มรื่นและสวยงามเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบผ่อนคลายและแบบกระฉับกระเฉงที่สามารถเดินหรือวิ่งเหยาะไปตามถนนวงรอบที่กว้างและร่มรื่น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด

วัดพระโตหรือวัดมหาพุทธาราม

สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ วัดพระโตหรือวัดมหาพุทธาราม เราไปชมกันเล๊ยยยยยย



                                           วัดพระโตหรือวัดมหาพุทธาราม





วัดมหาพุทธาราม ได้ชื่อว่าเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองศรีสะเกษ ก็เนื่องจากในระหว่างการบุกเบิกพื้นที่เพื่อสร้างเมืองใหม่ คือจังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบัน มีคนไปพบ “หลวงพ่อโต” ประดิษฐานอยู่ใจกลางป่าแดงโดยบังเอิญ จึงได้สร้างวัดขึ้นบริเวณที่พบองค์พระพุทธรูป และตั้งชื่อว่า “วัดพระโต หรือ วัดป่าแดง” กระทั่งมีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “วัดมหาพุทธาราม” ในปี พ.ศ. 2494
วัดมหาพุทธาราม ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธทั้งหลาย เป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตลอดจนเป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญของคณะสงฆ์ ปัจจุบัน วัดมหาพุทธาราม ได้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดศรีสะเกษ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดด้วย โดยตัววัดนั้น ตั้งอยู่ที่บ้านเมืองเหนือ ตำบลเมืองเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ห่างจากสถานีรถไฟศรีสะเกษประมาณ 500 เมตร สามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเมืองศรีสะเกษ กิจกรรมหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การแวะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองอย่าง “หลวงพ่อโต” ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อโต ภายในวัดมหาพุทธารามแห่งนี้ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.85 เมตร หน้าตักกว้าง 3.50 เมตร มีลักษณะเด่นคือ พระพักตร์กลมกว้างและพระโอษฐ์หนา สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปสมัยขอมซึ่งมีอายุร่วมพันปีมาแล้ว แต่มาสร้างเพิ่มเติมขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด
วิหารหลวงพ่อโต เป็นวิหารขนาดใหญ่ กว้าง 14 เมตร ยาว 40 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 ภายในวิหารมีความใหญ่โตโอ่โถง ผนังโดยรอบประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ ดูสวยงามยิ่งนัก เรียกได้ว่าเป็นพระวิหารที่ยิ่งใหญ่ งดงาม สมดั่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง


น้ำตกวังใหญ่

สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ น้ำตกวังใหญ่ เราไปชมกันเล๊ยยยยยย


น้ำตกวังใหญ่



น้ำตกวังใหญ่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก บ้านก่อ หมู่ที่ 7 ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ

น้ำตกวังใหญ่..ศรีสะเกษ น้ำตกวังใหญ่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก บ้านก่อ หมู่ที่ 7 ตำบลละลาย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก รอบน้ำตกก็จะเป็นความงามตามธรรมชาติน้ำตกที่สวยงาม รอบ ๆ บริเวณเติมเเต่งเพิ่มความสวยงามทิวทัศน์ตวามธรรมชาติ ท่องเที่ยวได้ตลอดปี เป็นน้ำตกที่มีลำธารไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก น้ำตกมีความสูงประมาณ 5 เมตร สามารถลงเล่นน้ำได้ตลอดเเนวน้ำตกและยังสามารถศึกษาพืขสมุนไพร ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 1,000 ชนิด ในเขตเทือกเขาพนมดงรักในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว จะน่าเที่ยวมากที่สุด
การเดินทาง : ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ มุ่งหน้าทางใต้ไปยังเส้นทาง 221 วิ่งผ่าน 1 วงเวียน 900 ม. เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ เส้นทาง 221 21.4 กม. เลี้ยวขวา เข้าสู่ เส้นทาง 2335 22.9 กม. เลี้ยวซ้าย 1.8 กม. เลี้ยวซ้าย 10.3 กม.