วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2561

แพบ้านแก้ง


สวัสดีค่ะท่านผู้ชม วันนี้ดิฉันจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ เราแนะนำสถานที่นี้ 

นั่นก็คือ แพบ้านแก้ง เราไปชมกันเล๊ยยยยยย


                                                           แพบ้านแก้ง


หาดบ้านแก้ง ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหาดที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่ไหลผ่าน จ.ศรีสะเกษ นางกัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จังหวัดศรีสะเกษและคณะ ได้เดินทางไปดูสภาพการเตรียมการรับนักท่องเที่ยวในช่วงเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ 2560
ท่ามกลางสภาพอากาศของจังหวัดศรีสะเกษค่อนข้างร้อนจัด ทำให้มีบรรดานักท่องเที่ยว จำนวนมากพากันไปนั่งในแพอาหารที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าสร้างยื่นเข้าไปกลางลำน้ำมูล เพื่อให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแก่นักท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนและเล่นน้ำคลายร้อนโดยมีการนำเอาวงดนตรีมาแสดงบนแพให้นักท่องเที่ยวได้ชมพร้อมทั้งรับประทานอาหารไปด้วย อาหารที่ได้รับความนิยมมากจะเป็นปลาเผา กุ้งเผา ต้มปลา ก้อยไข่มดแดง ส้มตำ แมลงทอด บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานคึกคักมาก นางกัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการดูสภาพความพร้อมของร้านอาหารต่างๆแล้วพบว่า แพอาหารได้มีการสร้างใหม่ให้มีความคงทนแข็งแรงมากโดยมีการนำเอาถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร และมีเหล็กเป็นโครงสร้างของแพ จากเดิมที่สร้างแพด้วยไม้ไผ่ ขณะนี้มีแพอาหารจำนวนประมาณ 250 แพ และมีร้านอาหารประมาณ 12 ร้านซึ่งตนได้ฝากขอความร่วมมือจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยวให้ช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ให้ทิ้งเศษอาหารลงไปในแม่น้ำมูลเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม หากสกปรกรกรุงรังจะทำให้สถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำแห่งนี้อาจจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเล่นน้ำส่วนราคาอาหารก็ได้เตือนร้านจำหน่ายอาหารไม่ให้ขายอาหารราคาแพงเกินไป เพราะจะเป็นการฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทางด้าน นางลัดดาวัลย์ ศรีแก้ว อายุ 42 ปี เจ้าของร้านอาหารเจ๊บาง กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ตนได้ทำแพอาหารเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวน 20 แพ จากเดิมที่มีอยู่เพียง 30 แพ รวมเป็น 50 แพ เพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับให้บริการนักท่องเที่ยวซึ่งในช่วงนี้เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนและปิดภาคเรียน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำคลายร้อนจำนวนมาก ขณะนี้บรรดาเจ้าของแพอาหารกำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากว่า มีนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั่งแพและสั่งอาหารเครื่องดื่มรับประทานแล้ว หลบหนีขึ้นฝั่งไปโดยไม่จ่ายค่าอาหารจำนวนมาก เดือนละประมาณ 5 – 10 ราย รวมเป็นเงินรายละประมาณ 1,000 – 1,500 บาท เดือนละประมาณ 10,000 บาทเศษพวกตนจึงได้แก้ไขปัญหาโดยเมื่อนำอาหารและเครื่องดื่มไปส่งให้ครบหมดแล้วก็จะขออนุญาตเก็บเงินค่าอาหารทันที เพื่อความสะดวกทั้ง 2 ฝ่าย แม้ว่าจะขอเก็บเงินแล้ว แต่ก็ยังคงสามารถนั่งรับประทานอาหารและเล่นน้ำต่อไปได้จนกว่าจะเลิกเล่นน้ำไปเอง 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น